หลานชายวัย 16 ปี กับปู่ผู้เจนโลกวัย 80 ปี อยู่ด้วยกัน ช่วยกันเลี้ยงม้าพันธุ์ดีไว้ตัวหนึ่ง
ม้าตัวนี้ ถือเป็นม้าตัวผู้ ความวิเศษ คือแข็งแรงมาก วิ่งได้ไกลถึงวันละพันลี้
ทุกๆวัน หลานก็จะพาม้าตัวโปรดออกไปปล่อยให้กินหญ้า วันหนึ่งหลานก็ร้องไห้ฟูมฟายมาหาปู่
“ปู่ครับ ผมไม่อยากอยู่เป็นผู้เป็นคนแล้ว ม้าผมหาย”
“ใจเย็นๆไว้หลาน” ปู่ไม่มีท่าทางเสียใจอะไรไปด้วย “มันไม่แน่”
หลานยิ่งร้องไห้ ใจก็นึกโกรธปู่มาก “ปู่ไม่มีหัวใจ พูดยังไง “มันไม่แน่” คำเดียว เราซีเสียใจแทบตาย”
สัปดาห์ต่อมา ม้าตัวผู้ก็วิ่งกลับมา ไม่ได้มาตัวเดียว ยังพาม้าตัวเมียรูปร่างสวยงามมาด้วยอีกตัวหนึ่ง
หลานจูงม้าทั้งสองตัวกลับบ้าน บอกปู่ด้วยความดีอกดีใจ
“ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งดีใจ” ปู่ยังมีสีหน้าแววตาเฉยๆแบบเดิม
“มันไม่แน่”
หลานหัวเสีย “อะไรๆก็ไม่แน่ วันก่อนร้องไห้ ก็ไม่แน่ วันนี้ดีใจ ก็บอกไม่แน่ ชีวิตปู่จะมีอะไรแน่สักอย่างบ้างไหม?”
ความสุข และความดีใจ หลานขึ้นหลังม้าฝีเท้าดี ขี่ลิ่วปลิวออกไป...พอม้าเร่งฝีเท้าเร็วเต็มที่ หลานซึ่งยังไม่ใช่นักขี่ม้ามืออาชีพ ก็ทรงตัวไว้ไม่ไหว หล่นโครมลงจากหลังม้า ขาหักลุกไม่ขึ้น
หลานค่อยๆคลานไปหาปู่ ร้องไห้โอดครวญ “ผมไม่อยากเป็นผู้เป็นคน...ขาผมหัก ผมเป็นคนพิการ สาวๆที่ไหนก็คงไม่มามอง ชีวิตผมช่างแย่จริงๆ”
ปู่ยังคงพูดอีหรอบเดิม “ใจเย็นๆเอาไว้ ถึงหลานจะขาหัก มันไม่แน่ อะไรๆมันก็คงไม่แย่ขนาดนั้น”
วันต่อๆมา ทหารของฮ่องเต้จิ๋นซี ก็มาเคาะประตูบ้าน บอกเสียงดัง “บ้านหลังนี้มีชายหนุ่มไหม? ถ้ามี ก็ต้องเตรียมไปเป็นทหาร ออกรบในแนวหน้า”
หลานนอนแซ่วอยู่บนเตียง ค่อยๆประคองตัว กระย่องกระแย่งออกมา พอทหารเห็น ก็ขีดชื่อเขาออกจากบัญชี
ถึงเวลานั้น หลานก็คลานเข้าไปไหว้ปู่ บอกปู่ “ผมไม่ต้องเป็นทหาร ไม่ต้องไปเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย...ผมดีใจเหลือเกิน”
ถึงขั้นนั้น ปู่ก็ยังวางเฉย...บอกหลาน “มันไม่แน่” คำเดิม
นิทานเรื่องนี้ สอนว่า ชีวิตคนเรานั้น ไม่มีอะไรแน่นอน ดีที่สุดก็อย่าเหลิง อย่าประมาท ต่ำที่สุดก็อย่าสลด เก็บไว้เป็นบทเรียน ดำเนินชีวิตไปบนทางสายกลาง อย่างรู้เท่าทัน

https://www.facebook.com/notes/%E0%B8%93%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%8A-%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%81/%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B9%88/840263092664600