๑. ความสำคัญและความเป็นมาของหลักสูตรค่ายวิถีพุทธ
สภาพสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และสื่อเทคโนโลยีต่าง ๆ ในภาวะปัจจุบันอยู่ในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลง มีการแข่งขันกันอย่างสูงและรุนแรง ซึ่งเป็นการแข่งขันด้านวัตถุและฐานะทางเศรษฐกิจ ทำให้เด็กและเยาวชนขาดภูมิคุ้มกัน ก่อให้เกิดปัญญาเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน ปัญหาด้านสังคมจึงเกิดขึ้น เช่น ปัญหาด้านยาเสพติด ความยากจน เด็กเร่ร่อน การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทำให้เด็ก เยาวชนหลงผิดไปตามกระแสของสังคม ละทิ้งคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา ทำให้การดำเนินชีวิตขาดหลักธรรมยึดเหนี่ยวจิตใจ ที่จะทำให้ชีวิตมีความมั่นคงและสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตที่จะเกิดขึ้นได้ ซึ่งเด็ก เยาวชนคือหัวใจสำคัญในการพัฒนาในทุก ๆ ด้าน เป็นกลุ่มคนที่มีพลัง มีศักยภาพมาก การกระตุ้นให้เด็ก เยาวชน กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออกในสิ่งที่ดี พัฒนาศักยภาพและพลังในเชิงสร้างสรรค์ สร้างให้เด็ก เยาวชน ตระหนักถึงคุณค่าของตนเองพร้อมมีภูมิคุ้มกัน รู้เท่ากันการเปลี่ยนแปลง ไม่ตกเป็นเหยื่อหรือสร้างปัญหาให้กับสังคม เป็นทรัพยากรอันทรงคุณค่า เป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ เด็ก เยาวชนจึงจำเป็นต้องมีความรู้และศีลธรรม ควบคู่กันไป เพื่อให้เด็ก เยาวชนมีคุณธรรม จริยธรรม มีศีล มีธรรม และมีค่านิยมในการดำเนินชีวิตได้อย่างเหมาะสม
ค่ายวิถีพุทธจึงเป็นการที่จะช่วยพัฒนาเด็ก เยาวชน โดยการพัฒนาจิตและปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และศีลธรรม ตามหลักพุทธศาสนา อันเป็นแนวทางที่ดีในการประพฤติปฏิบัติตนให้มีทักษะในการดำเนินชีวิต เก่ง ดี มีสุข และสามารถนำหลักธรรมคำสอนที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน คือ การพัฒนากาย โดยการแสดงออกทางกริยามารยาทของชาวพุทธ มีพฤติกรรมที่ดีงาม เหมาะสม การพัฒนาศีลโดยการอยู่ร่วมกับครอบครัว ชุมชน สังคม และบุคคลอื่นได้อย่างมีความสุข การพัฒนาจิต ให้เป็นจิตที่สมบูรณ์ มีสุขภาพจิตที่ดี และการพัฒนาทางด้านปัญญา ให้เกิดปัญญาในการรู้จริง รู้เท่าทันปัจจุบัน รู้วิธีการป้องกัน รู้วิธีการแก้ไขปัญหา สามารถสร้างภูมิต้านทานให้กับตนเองด้วยคุณธรรม นำพาชีวิตสู่ความสำเร็จเพื่อเกื้อกูลแก่ตนเอง สังคม และประเทศชาติ
๒. วัตถุประสงค์ของหลักสูตร
๒.๑ เพื่อพัฒนาจิตและปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และศีลธรรม ตามหลักพุทธศาสนา
๒.๒ เพื่อฝึกจิตให้มีสติ รู้เท่าทัน และแสดงออกทางด้าน กาย วาจา ใจ ได้อย่างเหมาะสม ทำให้สามารถปรับตัวรับต่อการเปลี่ยนแปลงทางด้านต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
๒.๓ เพื่อเรียนรู้ และเข้าใจในหน้าที่ของชาวพุทธ
๒.๔ เพื่อส่งเสริม ปลูกจิตสำนึกในการรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
๒.๕ เพื่อให้สามารถนำหลักธรรมไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่าง เก่ง ดี และมีความสุข
๓. เนื้อหาการอบรม
๓.๑ การเข้าถึงพระรัตนตรัย
๓.๒ ภาวนา ทำสมาธิ เพื่อการพัฒนาจิต
๓.๓ องค์ประกอบของพระพุทธศาสนา
๓.๔ มารยาทชาวพุทธ
๓.๕ เป้าหมายการศึกษาเพื่อเข้าถึงชีวิต
๓.๖ หลักธรรมชาวพุทธ
๓.๗ หลัก 5 D
๔. คำอธิบายสาระการอบรม
๔.๑ การเข้าถึงพระรัตนตรัย คือ การน้อมรับเอาคำสั่งสอนของพระรัตนตรัยเป็นเครื่องนำทางชีวิต
๔.๒ ภาวนา ทำสมาธิ เพื่อการพัฒนาจิต การพัฒนาจิตในพระพุทธศาสนาว่า จิตเป็นรากฐานสำคัญที่จะแสดงออกในอากัปกิริยาตลอดหน้า ใจ เมื่อได้รับการอบรมย่อมมีสติ ย่อมมีความฉลาดรอบคอบ
๔.๓ องค์ประกอบของพระพุทธศาสนา จะต้องประกอบด้วย คำสอนของศาสนา บุคลากรในศาสนา พิธีกรรม สถานที่และวัตถุสำคัญทางศาสนา
๔.๔ มารยาทชาวพุทธ เป็นการแสดงออกที่มีแบบแผนในการประพฤติปฏิบัติ ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติที่ทำให้สมาชิกในสังคมสามารถดำรงอยู่ร่วมกันได้อย่างดี
๔.๕ หลักธรรมชาวพุทธ ได้แก่
๑) บุญกิริยาวัตถุ คือ การทำบุญ การทำความดีด้วยกิริยาต่าง ๆ ถือเป็นธรรมที่ส่งเสริมให้การประพฤติพรหมจรรย์มีการตั้งอยู่อย่างเป็นนิจ และให้เป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
๒) ฆราวาสธรรม คือ ธรรมสำหรับผู้ครองเรือน (สัจจะ : ความซื่อสัตย์, ทมะ : การฝึกตน, ขันติ : ความอดทน, จาคะ : การบริจาค/การเสียสละ)
๓) อบายมุข ๖ คือ วิถีชีวิต ๖ อย่าง แห่งความโลภและความหลงที่ทำให้เกิดความเสื่อม
๔) ธรรมนูญชีวิต (ทิศ ๖) คือ พุทธจริยธรรมเพื่อชีวิตที่ดีงาม
๕) อกุศลกรรมบถ ๑๐
๔.๖ หลัก 5 D ได้แก่ (๑) เป็นลูกที่ดีของพ่อ-แม่ (๒) เป็นศิษย์ที่ดีของครู-อาจารย์ (๓) เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน (๔) เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ และ (๕) เป็นสาวกที่ดีของพระศาสดา
๕. แนวทางการจัดกิจกรรม
๕.๑ เจริญจิตภาวนา (กราบพระเพื่อมงคลของชีวิต) ทักทายวิถีคุณธรรม
๕.๒ ธรรมะบรรยาย (คุณค่าแห่งวิถีพุทธ)
๕.๓ กิจกรรมกลุ่ม เรียนรู้การอยู่ร่วมกัน สร้างความรัก ความสามัคคี
๕.๔ ปลูกจิตสำนึก ในการเป็นเยาวชนที่ดี นำสิ่งที่ได้ไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน
๕.๕ การเจริญจิตภาวนา (สวดมนต์/เดินจงกลม/นั่งสมาธิ)
๕.๖ จุดเทียนปัญญา วิถีพุทธ
๕.๗ ประเมิน/สรุปผลประจำวัน (เขียนบรรยายสิ่งที่ได้ในกิจกรรมที่ทำ)
๕.๘ บูชาครู อธิษฐานจิต เพื่อชีวิตใหม่ ขอขมาพระอาจารย์
๖. การประเมินผล
๖.๑ ด้านศีล เด็ก เยาวชน มีการพัฒนาทางด้านร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ มีพฤตกรรมที่ดีขึ้น
๖.๒ ด้านสมาธิ เด็ก เยาวชน มีส่วนร่วมและเอาใจใส่ต่อการทำกิจกรรม
๖.๓ ด้านปัญญา เด็ก เยาวชน มีความรอบรู้และสามารถนำหลักธรรมไปพัฒนา เผยแพร่ ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน และดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
๗. หลักธรรมประกอบการอบรม
๗.๑ การพัฒนาเด็ก เยาวชนตามหลักพระพุทธศาสนา ได้กล่าวถึงการฝึกฝนพัฒนาให้สมบูรณ์ตามหลักไตรสิกขา อันประกอบด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา หรืออีกนัยหนึ่งคือ พฤติกรรม จิตใจ และปัญญาไปพร้อมกัน โดยเน้นที่การพัฒนาปัญญา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฝึกฝนให้เกิดความรู้ในสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง สามารถเข้าใจปัจจัยเหตุปัญหา และแก้ไขได้
๗.๒ บุญกิริยาวัตถุ คือ การทำบุญ การทำความดีด้วยกิริยาต่าง ๆ ถือเป็นธรรมที่ส่งเสริมให้การประพฤติพรหมจรรย์มีการตั้งอยู่อย่างเป็นนิจ และให้เป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
๗.๓ ฆราวาสธรรม คือ ธรรมสำหรับผู้ครองเรือน (สัจจะ : ความซื่อสัตย์, ทมะ : การฝึกตน, ขันติ : ความอดทน, จาคะ : การบริจาค/การเสียสละ)
๗.๔ อบายมุข ๖ คือ วิถีชีวิต ๖ อย่าง แห่งความโลภและความหลงที่ทำให้เกิดความเสื่อม
๗.๕ ธรรมนูญชีวิต (ทิศ ๖) คือ พุทธจริยธรรมเพื่อขีวิตที่ดีงาม
๗.๖ อกุศลกรรมบถ ๑๐
๘. คุณลักษณะที่ผู้เข้าอบรมพึงได้รับ
เด็ก เยาวชน ได้เรียนรู้และเข้าใจ ปฏิบัติตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา พัฒนาให้เป็นคนเก่ง ดี มีสุข โดยมีคุณธรรม จริยธรรม คือ ขยัน หมั่นเพียร ซื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบ มีระเบียบวินัย มีความรัก ความสามัคคี มีความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ และจรรโลงความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
๙. กำหนดการ
หลักสูตร ๓ วัน ๒ คืน