เปลี่ยนความคิดพิชิตจิตตก

เคยไหมคะ รู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง เหนื่อยหน่ายกับชีวิตในแต่ละวัน ไม่มีกะจิตกะใจ อยากพบอยากเจอใคร หรืออยากทำอะไร มองไปทางไหนก็เห็นแต่ความตีบตัน

                หาทางออกให้ตัวเองไม่ได้ หนักเข้าก็มองเห็นแต่จุดด้อยข้อเสียของตัวเองจนสูญเสียความเชื่อมั่นไปเลยก็มบางครั้งบางคราวความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นตอนที่เราพลาดหวังกับบางสิ่ง เจอปัญหายืดเยื้อที่แก้ไม่ตกความเครียดจากการงานและชีวิต หรือแม้แต่ความคิดด้านในของตัวเราเอง ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นเพราะอะไร อย่าให้เวลากับอาการจิตตกแบบนี้อยู่กับเรายืดเยื้อยาวนาน จนบั่นทอนพลังกาย พลังใจพลังชีวิต ได้เวลาปลุกพลังชีวิตฉุดตัวเองขึ้นจากหลุมพรางความรู้สึกยอดแย่ ไปสู่คุณคนใหม่ที่สดใส มีพลังและมั่นใจในตัวเองมากกว่าเดิม

            ก่อนจะเริ่มปฏิบัติการนี้ ขอให้คุณเชื่อก่อนว่ามนุษย์เราทุกคนมีศักยภาพที่มีคุณค่าอยู่ในตัวเอง สามารถฝึกหัดและพัฒนาได้ในเกือบทุกเรื่องรวมทั้งความคิดและมุมมอง แต่อุปสรรคสำคัญก็คือ ความคิดติดยึด ไม่ยอมปรับเปลี่ยน และสุดท้ายเมื่อคุณเริ่มทำสิ่งเหล่านี้แล้ว จงทำมันอย่างต่อเนื่อง เพราะความรู้สึกแย่ ๆ มันเกิดขึ้น จากไปและย้อนวนกลับมาใหม่ได้เสมอ

        จับจุดรู้ตัว 

           เมื่อไหร่ที่เริ่มรู้สึกจิตตก ความท้อแท้ห่อเหี่ยวกำลังเข้าครอบงำ อย่าปล่อยใจให้ไหลไปตามความรู้สึก กระตุกตัวเองให้รู้ตัวว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองอยู่ จะด้วยการบอกในใจ หรือพูดออกมาให้ตัวเองได้ยินก็ได้... ฉันกำลังเศร้า หงุดหงิด โกรธ หยุดคิด ฯลฯ... แล้วสรรหาคำเรียกสติและพลังมาบอกกับตัวเอง เพื่อหยุดความรู้สึกนั้นไม่ให้ลุกลาม หรืออาจใช้วิธีการหายใจเข้าช่วย สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ นับ 1 ถึง 4 เป็นจังหวะช้า ๆ 1, 2, 3,4 กลั้นหายใจไว้สักครู่ นับ 1 ถึง 4 เป็นจังหวะเดียวกับเมื่อหายใจเข้า แล้วค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออก นับ 1 ถึง 8 อย่างช้า ๆ 1..2..3..4..5..6..7..8.. ระหว่างผ่อนลมหายใจให้รู้สึกว่า เรากำลังใช้ลมหายใจผลักดันความเครียดความรู้สึกแย่ ๆ ออกไปจากตัว ทั้ง 2 วิธีนี้คือการเบนความสนใจของคุณออกจากความรู้สึกด้านลบ

        ปลุกพลังให้ตัวเอง 

            เริ่มต้นจากการกระทำ ลองเปลี่ยนการเคลื่อนไหวร่างกายประจำวัน จงนั่ง ยืน เดินอย่างผึ่งผายกระฉับกระเฉง ตื่นตัวและมั่นใจ ไม่ใช่ไหล่ห่อ คอตก หลังโก่ง ภาษากายเป็นด่านแรกของการเรียกความกระฉับเฉง ที่สำคัญ อย่าลืมยิ้มแย้มแจ่มใส 

            ต่อมาคือหมั่นพูดบวกให้กับตัวเอง เรียกชื่อตัวเอง และชื่นชมตัวเองด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่สดใสมีพลัง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นศรัทธาในตัวเองกลับคืนมา "ฉันทำได้ ฉันเก่ง ฉันมีดี... ฯลฯ" เลิกคิด เลิกโทษ หรือบอกว่าตัวเองแย่ ทำไม่ได้ ไม่ได้เรื่อง ฯลฯ เพราะถ้าคุณคิดอย่างไรมันก็จะเป็นอย่างนั้น We are what we think as we think so we become

       มองมุมบวกสร้างอารมณ์บวก 

           ความคิดมีอิทธิพลกับอารมณ์และความรู้สึก และอารมณ์ความรู้สึกก็มีผลกับการกระทำ ลองถ้าเรามูดดี้ซะแล้วจะทำอะไร คิดอะไรก็คงทำได้ไม่ดีนัก เผลอ ๆ จะพาลไม่อยากทำเอาซะด้วย ในทางตรงกันข้าม ความคิดที่ดี ๆ มีพลังดึงดูดสิ่งดี ๆ เข้ามาหาเรา ถ้าเริ่มต้นเช้าด้วยอารมณ์หงุดหงิดที่รถดันสตาร์ทไม่ติด ระหว่างเดินทางไปทำงาน ก็อารมณ์เสียกับรถติด หน้าตาบูดบึ้งเดินเข้าออฟฟิศด้วยความคิดที่ว่าวันนี้ทำไมซวยจริง ๆ และสารพัดคำบ่นระบาย เพื่อนร่วมงานคนไหนจะอยากเข้ามาพูดคุยด้วย และวันนั้นทั้งวันคุณจะทำงานอย่างมีความสุขงั้นหรือ

       มองและชื่นชมในสิ่งที่มี 

           สิ่งดี ๆ มีอยู่รอบตัวมากมาย ถ้าเรามองหาเราก็จะมองเห็น เริ่มต้นด้วยขอบคุณจากสิ่งใกล้ตัว ขอบคุณร่างกายที่ยังแข็งแรงสมบูรณ์ ขอบคุณที่เรามีสติปัญญาที่ดี มีงานดี ๆ ทำ ขอบคุณที่มีเพื่อนที่ดี ฯลฯ ถ้าเราทำแบบนี้บ่อย ๆ จะพบว่าเรามีสิ่งดี ๆ ในชีวิตมากมาย เราจะรู้สึกได้ถึงความมั่งคั่งและความอุดมสมบูรณ์จากภายใน และเห็นคุณค่าของสิ่งที่เรามี ผู้คนรอบข้าง รวมถึงเห็นคุณค่าในตัวเอง ช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าเราเองก็มีคุณค่า มีความพร้อมและมีสิ่งดี ๆ ในชีวิต มองชีวิตอย่างมีความสุขขึ้น

       ทบทวนตัวเอง 

         ใช้ช่วงเวลาผ่อนคลายสำรวจตัวเอง ว่าเรามีเป้าหมาย มีความฝัน มีความปรารถนาอะไรในชีวิต จินตนาการให้เห็นถึงบรรยากาศเหมือนกับว่าความปรารถนานั้นกำลังเกิดขึ้นตอนนี้ มีความสุขและอิ่มเอมกับมัน จากนั้นก็กลับสู่โลกความเป็นจริง ทบทวนดูว่าตอนนี้เราได้ทำความปรารถนานั้นไปถึงไหนแล้ว 

          ขณะเดียวกันก็สำรวจตัวเองว่า มีจุดดี จุดด้อย จุดเด่น อะไรบ้าง จะปรับจุดด้อยให้ดีขึ้นได้อย่างไร และใช้จุดเด่นนั้นอย่างไร เพื่อให้บรรยากาศที่เราเพิ่งจินตนาการเกิดขึ้นจริง ๆ เขียนสิ่งเหล่านั้นออกมา วิธีนี้คือการทบทวนชีวิตตัวเอง และเตือนสติให้เราดำเนินชีวิต แต่ละวันไปอย่างมีเป้าหมายและมีความหวัง แต่เป้าหมายหรือความปรารถนานั้นควรอยู่บนพื้นฐานของความจริง ไม่ไกลเกินเอื้อม

 


เขียนเมื่อ 9 กันยายน 2555 | อ่าน 3078
เขียนโดย

       
 
 
  อ่าน ธรรมะวันนี้ อื่นๆ
 
เปรต วิบากกรรมของผู้ยุยงให้คนอื่นแตกแยก
เปรต วิบากกรรมของผู้ยุยงให้คนอื่นแตกแยก พระพุทธศาสนากล่าวถึงวิบากกรรมของคนที่ชอบพูดยุยงให้คนอื่นแตกแ
30/08/2565
เปิดอ่าน 6938
 
ซื่อสัตย์
เรือลำนั้นชื่อ ซื่อสัตย์
09/10/2564
เปิดอ่าน 4292
 
"ปรุง เปลี่ยน ปรับ ขยับขยาย"
"ปรุง เปลี่ยน ปรับ ขยับขยาย" พระเทพปฎิภาณวาที (เจ้าคุณพิพิธ) วัดสุทัศนเทพวราราม เจ้าคณะเขตดุสิต กทม
13/01/2563
เปิดอ่าน 5892
 
นางฟ้าตกสวรรค์
โลกมนุษย์​ ยาวนานจริงหรือ​ อย่าประมาทในการทำความดี
06/10/2562
เปิดอ่าน 9166
 
สาธุ​ คืออะไร?
สาธุ
18/04/2562
เปิดอ่าน 5620
 
ธรรมชาติแมงป่อง
ธรรมชาติแมงป่อง
14/04/2562
เปิดอ่าน 5052
 
เต่าตาบอด
เต่าตาบอด​ 100ปี​ ยื่นคอขึ้นเหนือน้ำให้ลอดแอก​ยากยิ่งนัก
02/02/2562
เปิดอ่าน 5233
 
งูกับการสวดมนต์
งูกับการสวดมนต์
20/06/2561
เปิดอ่าน 5443
 
ลอยกระทง
ลอยกระทง เป็นประเพณีสำคัญที่ชาวไทยสืบทอดกันมาช้านานตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี
03/11/2560
เปิดอ่าน 6230
 
เปิดกลโกง กับคนโกง 8 จำพวกในพระไตรปิฎก
เปิดกลโกงกับคนโกง 8 จำพวกในพระไตรปิฎก ประเภทของคนโกงถูกเตือนแล้วโกรธ ไม่ใช่โกงเงินทอง แต่โกงความดี
01/11/2560
เปิดอ่าน 5762
 
 
 
 
   
   
   
   
   
   
   
   
   
   
   
   
   
   
   
   
   
   
เว็บไซต์และข้อมูลของโรงเรียนทุกโรงเรียนในเว็บไซต์นี้ สงวนลิขสิทธิ์ การนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์อื่นใด
ต้องได้รับการอนุญาต จากเจ้าของเว็บไซต์ก่อนเสมอ
 
สำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา(สนก.)
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
ถนนราชดำเนินนอก เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300
โทรศัพท์ 02-288-5889-90 โทรสาร 02-288-5879
Powered by ThaiAppCenter.com ศูนย์รวมแอปมือถือไทย
โครงการสถานศึกษาวิถีพุทธ สำนักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
79 หมู่ที่ 1 ถนนพหลโยธิน หลักกิโลเมตรที่ 55 ตำบลลำไทร
อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รหัสไปรษณีย์ 13170
โทรศัพท์: 083 305 2392 |
เจ้าหน้าที่เว็บไซต์เข้าสู่ระบบ
พัฒนาเว็บไซต์โดย: สคูลจ๊อบ สมัครครู ประกาศรับสมัครครู สมัครงานโรงเรียน www.schooljob.in.th