ความเป็นมาโรงเรียนวิถีพุทธพระราชทาน
โครงการโรงเรียนวิถีพุทธ เริ่มจากการที่กระทรวงศึกษาธิการมีแนวคิดให้มีการนำหลักธรรมสำคัญ ในพระพุทธศาสนามาเป็นแนวทางในการบริหารและพัฒนานักเรียนอย่างบูรณาการในชีวิตประจำวัน เพื่อพัฒนาการกิน อยู่ ดู ฟัง เป็น โดยผ่านกระบวนการทางวัฒนธรรม แสวงหาปัญญาและวิถีวัฒนธรรมเมตตา โดยเริ่มก่อกำเนินขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ.2545 และมีพิธีเปิดโครงการอย่างเป็นทางการในเดือน พฤษภาคม 2546 ณ พุทธมณฑล โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานในพิธีมีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการ 89 โรงเรียน จากสถานศึกษาทุกสังกัด ต่อมามีสถานศึกษาสมัครใจเข้าร่วมโครงการมากขึ้น จนถึงปี พ.ศ. 2557 มีจำนวนประมาณ 19,000 โรงเรียน และมีกระบวนการพัฒนาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นตามลำดับจนถึงปัจจุบัน
โรงเรียนวิถีพุทธมีจุดเน้นอยู่ที่การพัฒนาตามหลักไตรสิกขา ที่เป็นการศึกษาพัฒนา 3 ด้านอย่างบูรณาการ คือ
๑) ด้านศีล จะพัฒนาพฤติกรรมไม่ให้เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ตลอดจนสิ่งแวดล้อม
๒) ด้านสมาธิ จะพัฒนาให้มีจิตใจที่เข้มแข็ง และมีสุขภาพดี มีความสุขสงบ
๓) ด้านปัญญาเป็นการพัฒนาความรู้ที่เข้าใจและเท่าทันโลก และชีวิต
ซึ่งหลักไตรสิกขาจะส่งผลให้ผู้ที่ได้รับการศึกษาพัฒนาสู่การมีชีวิตที่ดีงาม มีความสุขและดำเนินชีวิตได้อย่างเหมาะสมทำให้มีชีวิตที่สันติสุขได้ อันเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เกิดสันติภาพในสังคม การศึกษาแนววิถีพุทธมีความเหมาะสมกับสังคมไทยเป็นอย่างยิ่ง เพราะวิถีชีวิตแบบไทย มีพระพุทธศาสนาเป็นรากฐานและพื้นฐานในวิถีชีวิตและจิตใจ ในปัจจุบันประชากรไทยร้อยละ 95 นับถือพระพุทธศาสนา ดังนั้น การจัดการศึกษาแนววิถีพุทธจึงมีความสัมพันธ์เกี่ยวกับวิถีชีวิตคนไทยมาก ซึ่งจะเป็นโอกาสและหนทางหลักของการพัฒนาระบบการศึกษาไทยให้มีเครื่องมือสำคัญ ที่จะพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ตามเป้าหมายที่พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติกำหนด
ในปี พ.ศ.2552 ได้มีกระบวนการพัฒนาโรงเรียนวิถีพุทธ โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ภายใต้โครงการพัฒนาที่เป็นระบบ ชื่อ “โครงการประเมิน เสนอแนะและพัฒนาโรงเรียนคุณธรรมชั้นนำ” โดยได้สำรวจโรงเรียนวิถีพุทธจำนวน 3,500 โรงเรียน และได้สุ่มตรวจเยี่ยมประเมินเพื่อการพัฒนาและให้ข้อเสนอแนะแก่โรงเรียนวิถีพุทธในภาคสนาม จำนวน 700 โรงเรียน ต่อมาในปี พ.ศ.2553 ได้มีการตรวจเยี่ยมประเมินอีก 700 โรงเรียน จากโครงการดังกล่าวทำให้เกิดโรงเรียนคุณธรรมชั้นนำ และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนวิถีพุทธชั้นนำในปัจจุบันโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้กำหนดเกณฑ์ตัวชี้วัดในการพัฒนาโรงเรียนวิถีพุทธ เรียกว่า อัตลักษณ์ 29 ประการ สู่ความเป็นโรงเรียนวิถีพุทธ เพื่อพัฒนาโรงเรียนวิถีพุทธให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และได้ใช้เป็นเกณฑ์ตัวชี้วัดในการคัดเลือกโรงเรียนวิถีพุทธให้ได้รับรางวัลโรงเรียนวิถีพุทธชั้นนำ ปัจจุบันมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยร่วมกับสำนักนวัตกรรมการจัดการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ร่วมกันดำเนินการยกระดับโรงเรียนวิถีพุทธให้เป็นโรงเรียนวิถีพุทธชั้นนำ โดยมีกระบวนการคัดเลือกที่มีขั้นตอนเพื่อรับโล่รางวัลโรงเรียนวิถีพุทธชั้นนำ และทุนสนับสนุนโรงเรียนวิถีพุทธชั้นนำ จากพระพรหมบัณฑิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นประจำทุกปี โดยเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน มีโรงเรียนวิถีพุทธที่ได้รับรางวัลโรงเรียนวิถีพุทธชั้นนำจำนวน 5 รุ่น รวมจำนวนทั้งหมด 665 โรงเรียน โรงเรียนวิถีพุทธชั้นนำทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นสถานศึกษาต้นแบบที่มีแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุณภาพ
ด้วยระยะเวลาการดำเนินงานสร้างสรรค์และพัฒนาโครงการโรงเรียนวิถีพุทธอย่างยาวนานถึง 12 ปี โรงเรียนวิถีพุทธได้มีส่วนสำคัญในการพัฒนาสังคมไทยให้อยู่เย็นเป็นสุขตลอดมา
ในปี พ.ศ.2558 นี้ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในฐานะองค์กรที่ดูแลและพัฒนาโครงการโรงเรียนวิถีพุทธจึงได้คัดเลือกโรงเรียนวิถีพุทธชั้นนำในรุ่นที่ 1 ถึงรุ่นที่ 5 จำนวนรวม 665 โรงเรียนที่มีผลการดำเนินงานเป็นเลิศตามเกณฑ์ที่กำหนด ให้ได้รับรางวัลระดับสูงสุด คือ โรงเรียนวิถีพุทธพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 27 โรงเรียน ซึ่งจะเป็นรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติโรงเรียนวิถีพุทธให้เป็นสถานศึกษาต้นแบบด้านคุณธรรมจริยธรรมที่มีคุณค่า สมควรเป็นตัวอย่างและแหล่งเรียนรู้ให้แก่สถานศึกษาอื่นต่อไป
ดาวน์โหลดเอกสารเพิ่มเติม1 : Download? (148 kb)
ดาวน์โหลดเอกสารเพิ่มเติม2 : Download? (148 kb)
ดาวน์โหลดเอกสารเพิ่มเติม3 : Download? (148 kb)
ดาวน์โหลดเอกสารเพิ่มเติม4 : Download? (148 kb)
ดาวน์โหลดเอกสารเพิ่มเติม5 : Download? (148 kb)
ดาวน์โหลดเอกสารเพิ่มเติม6 : Download? (148 kb)
ดาวน์โหลดเอกสารเพิ่มเติม7 : Download? (148 kb)
ดาวน์โหลดเอกสารเพิ่มเติม8 : Download? (148 kb)
เขียนเมื่อ
17 มีนาคม 2558 | อ่าน
6081
เขียนโดย
admin
|